
Ultrasound Fibro Scan + QUS
(Quantitative ultrasound for liver steatosis and fibrosis)
ปัจจุบันนี้อุบัติการณ์ของภาวะไขมันพอกดับที่ สัมพันธ์กับภาวะเมทาโบลิซึมทำงานผิดปกติ (Metabolic dysfunction-associated steatovic liver disease, MASLD) นั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภาวะไขมันพอกดับ หากทิ้งไว้เป็นเวลานานอาจะนำไปสู่ภาวะดับอักเสบ (steatohepatisis) หรือดับแข็ง (cirhosis) ได้
ดังนั้นการ ตรวจพบผังผืดในตับรวมถึงไขมันพอกตับในระยะต้นมี ส่วนช่วยป้องกันภาวะตับอักเสบได้
การตรวจนี้เหมาะกับผู้ที่มีภาวะบางอย่างที่อาจสัมพันธ์กับ ภาวะเมทาโมลิซึ่มทำงางานผิดปกติ และภาวะ ผิดปกติของเนื้อเยื่อตับ เช่น
- โรคอ้วน
- เบาหวานชนิดที่ 2 รวมถึงภาวะดื้อต่ออินซูลิน
- ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นประจำหรือเป็นโรค ตับจากแอลกอฮอล์
- ตามการพิจารณาของแพทย์
ทางเลือกในการตรวจได้แก่
- Transient elastography
- Quantitative ultrasound for liver steatosis and fibrosis
- MR elastography
ข้อดีของการตรวจ quantitative ultrasound for liver steatosis and fibrosis
คือ สามารถประเมินได้ทั้ง ภาวะผังผืดในตับและไขมันเกาะดับในการตรวจเดียวกัน (เมื่อเทียบกับ transient elastography, fibroscan ซึ่งจะ ตรวจเฉพาะภาวะผังผิดในดับเพียงอย่างเดียว) รวมถึงใช้ เวลาในการตรวจสั้น (เมื่อเทียบกับการาดรวจ MR elastography) ไม่มีการใช้รังสี ไม่มีแผลและไม่เจ็บปวด เพราะเป็นการตรวจที่ไม่รุกล้ำ (เมื่อเทียบกับการเจาะ เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อตับ)
การเตรียมตัวก่อนการตรวจ
คืองดน้ำและอาหาร 4-6 ชั่วโมงก่อนการตรวจ
หลักการ quantitative ultrasound for liver steatosis and fibrosis
จะใช้คุณสมบัติการดูดกลืนคลื่น เสียง การกระเจิงของคลื่นเสียง และความเร็วของคลื่น เสียงในการเคลื่อนผ่านเนื้อเยื่อดับ และเอาข้อมูลที่ได้มา คำนวณหา ปริมาณของผังผืดและไขมันที่อยู่ป่นกับ เนื้อเยื่อตับด้วยโปรแกรมเฉพาะ
การแปลผล
- ภาวะไขมันพอกตับจะรายงานเป็น % fat fraction และ แบ่งระยะความรุนแรงออกเป็น
- S0, ปกติ %FF<5%
- S1, Mild %FF>=5%
- S2, moderate %FF>=15%
- S3, Severe %FF>=25%
- ภาวะผังผืดเกาะดับจะรายงานเป็น kPa
- F0-F1, No/mild fibrosis <6.82
- F2, Significant fibrosis 6.82-8.63
- F3, Severe fibrosis 8.63-9.65
- F4, Cirrhosis >9.65